Autonomous Mobile Robot “AMR” มีข้อดี-เสีย อย่างไร?

Autonomous Mobile Robots หรือ AMR  คือเทคโนโลยียุคใหม่ที่มีความฉลาดซับซ้อนยิ่งขึ้น โดยใช้ระบบ Laser Sensor ที่เรียกว่า LiDAR ในการอ่านและวัดระยะทางสิ่งของต่างๆที่อยู่แวดล้อมตัวหุ่นยนต์ ทำให้ AMR รับรู้สภาพแวดล้อมและสิ่งกีดขวางต่างๆ นอกจากนี้ยังใช้เทคโนโลยีสร้างแผนที่ กำหนดตำแหน่ง และเส้นทางการวิ่งแบบ Real-Time หรือ SLAM (Simultaneous Localization and Mapping) ทำให้หุ่นยนต์ AMR สามารถวิ่งใช้งานได้ในทุกสถานที่โดยอัตโนมัติ สามารถหลบหลีกสิ่งกีดขวางหรือคนได้อัตโนมัติ สามารถนำมาใช้ได้โดยไม่ต้องเตรียมอุกรณ์นำทางต่างๆ เช่น Magnetic Tape, Reflector, Inductive Wire, QR Code ทำให้การนำมาใช้งานสะดวกและเปลี่ยนแปลงเส้นทางและรูปแบบการวิ่งได้ตลอดเวลาสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ

ดังนั้น AMR จึงเป็นยานพาหนะที่ใช้เซ็นเซอร์และโปรเซสเซอร์ในตัวเพื่อเคลื่อนย้ายวัสดุโดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องใช้ไกด์หรือเครื่องหมายทางกายภาพ เรียนรู้สภาพแวดล้อม จดจำตำแหน่ง และวางแผนเส้นทางของตนเองแบบไดนามิกจากจุดอ้างอิงหนึ่ง (ตำแหน่งหรือปลายทางภายในสภาพแวดล้อม) ไปยังอีกจุดหนึ่ง

ถ้า AGV เปรียบเสมือนรถไฟที่ต้องจัดเตรียมรางและวิ่งไปบนราง  AMR ก็จะเปรียบเสมือนกับรถยนต์ที่สามารถวิ่งไปได้ทุกที่อย่างอิสระ สามารถเลี้ยวหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้หรือเปลี่ยนเส้นทางได้ตลอดเวลาตามความต้องการ จะเห็นได้ว่า AMR สามารถตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรมยุค 4.0 ได้เป็นอย่างดี

การนำทาง: การใช้เทคโนโลยีเช่นเซ็นเซอร์ LiDAR & การโลคัลไลเซชันและการทำแผนที่พร้อมกัน (SLAM) AMR จะกำหนดเส้นทางที่ดีที่สุดระหว่างจุดอ้างอิง

การปรับใช้: สิ่งนี้อาจแตกต่างกันไป แต่ AMR ที่ยอดเยี่ยมสามารถแกะกล่องและนำไปใช้งานได้ในเวลาน้อยกว่า 15 นาที

ความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน: AMR จะวางแผนเส้นทางที่สั้นที่สุดแบบไดนามิกตามเงื่อนไขและข้อกำหนดในปัจจุบัน หากงานเปลี่ยนจากวันหนึ่งเป็นวันถัดไป เส้นทางของ AMR จะเปลี่ยนไปด้วย

การตอบสนอง: AMR จะตรวจจับและหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางและเส้นทางที่ถูกบล็อกโดยอัตโนมัติเพื่อค้นหาเส้นทางที่ดีที่สุดไปยังจุดอ้างอิงถัดไป

ข้อดีของ AMR

 1.เพิ่มความยืดหยุ่น

เนื่องจากหุ่นยนต์ AMR ส่วนใหญ่อาศัยเซ็นเซอร์และกล้องออนบอร์ดในการทำงาน—ไม่ใช่สายไฟหรือเทปแม่เหล็ก เช่น AGV และ AGC— AMRs เป็นตัวอย่างการทำงานอัตโนมัติที่ยืดหยุ่นและคล่องตัว แทนที่จะปฏิบัติตามเส้นทางที่กำหนดไว้ AMR สามารถสร้างเส้นทางที่มีประสิทธิภาพของตนเองจากจุด A ไปยังจุด B ภายในสถานที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยให้หลีกเลี่ยงอุปสรรคได้

ความยืดหยุ่นนี้ยังหมายความว่าหุ่นยนต์ AMR สามารถสลับเพื่อทำงานใหม่ได้อย่างง่ายดายเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติอื่นๆ ซึ่งโดยทั่วไปต้องใช้เวลาและความพยายามในการตั้งโปรแกรมใหม่

2.เพิ่มความปลอดภัย

หุ่นยนต์ AMR อัดแน่นไปด้วยเซ็นเซอร์และกล้อง สิ่งเหล่านี้ทำให้ AMR สามารถตีความและทำความเข้าใจสภาพแวดล้อมได้ ซึ่งช่วยให้สามารถเดินทางภายในสถานที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ชนกับสิ่งกีดขวาง เช่น ผลิตภัณฑ์ โครงสร้างพื้นฐาน หรือผู้คน

ในทางตรงกันข้าม อุปกรณ์ที่ดำเนินการโดยผู้ควบคุมที่เป็นมนุษย์ เช่น รถยก ไม่มีกลไกความปลอดภัยในตัวมากนัก และท้ายที่สุดต้องอาศัยข้อมูลจากมนุษย์ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานที่เป็นมนุษย์มักฟุ้งซ่านหรือเหนื่อยล้าและทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ สิ่งเหล่านี้ไม่เป็นปัญหาเมื่อใช้ AMR ดังนั้น การใช้ AMR สำหรับงานที่ทำซ้ำได้ง่าย จึงช่วยให้การปฏิบัติงานขจัดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากมนุษย์ และปรับปรุงความปลอดภัยโดยรวมของโรงงานได้อย่างมาก

3.การดำเนินการอย่างรวดเร็ว

หุ่นยนต์ AMR สามารถใช้งานได้จริงภายในการดำเนินการภายใน 4-6 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับลักษณะเฉพาะของการดำเนินการ (สิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่นี่คือซอฟต์แวร์การหยิบสินค้าและซอฟต์แวร์การดำเนินการคลังสินค้าที่หน่วยงานจะต้องรวมเข้าด้วยกัน)

แม้ในระดับไฮเอนด์ของสเปกตรัม นี่เป็นเวลาเพียงเล็กน้อยอย่างน่าทึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับเทคโนโลยีอื่นๆ ตามจุดอ้างอิง ระบบสินค้าถึงบุคคล (G2P) อาจใช้เวลาถึงหนึ่งปีในการดำเนินการอย่างเต็มที่

4.ความสามารถในการปรับขนาด

เนื่องจากหุ่นยนต์ AMR นั้นค่อนข้างง่ายต่อการนำไปใช้ภายในสถานที่ จึงเป็นไปได้ที่จะปฏิบัติตามระบบการปรับใช้แบบแยกส่วน โดยเริ่มจากไม่กี่หน่วยและเพิ่มมากขึ้นตามความจำเป็นเมื่อการดำเนินงานเติบโตขึ้น หรือความต้องการเปลี่ยนไป

วิธีนี้ช่วยให้หลีกเลี่ยงการลงทุนที่สูงขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ เนื่องจากแทนที่จะซื้อ AMR จำนวนมากในคราวเดียว คุณสามารถเริ่มต้นด้วยหนึ่งหรือสองรายการ และสามารถซื้อเพิ่มเติมเมื่อเวลาผ่านไป

 5.ง่ายต่อการเคลื่อนย้ายระหว่างสิ่งอำนวยความสะดวก

หุ่นยนต์ AMR สามารถใช้เชื่อมช่องว่างระหว่างกาลได้ เนื่องจาก AMRs นั้นค่อนข้างง่ายต่อการปรับใช้ จึงสามารถเคลื่อนย้ายไปมาระหว่างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ได้ค่อนข้างง่าย ทำให้สามารถทำงานอัตโนมัติได้แม้ในระยะสั้น นอกเหนือจากการดำเนินงานที่คาดว่าจะมีการเคลื่อนไหวในระยะสั้น การดำเนินการนี้ยังเป็นประโยชน์สำหรับบริษัทต่างๆ ที่จัดตั้งการดำเนินการในวันหยุดชั่วคราว

ข้อเสียของ AMR

1.AMR ทำงานได้ดีที่สุดด้วย SKU จำนวนมาก

เพื่อที่จะพิสูจน์ต้นทุนของการนำระบบหุ่นยนต์ AMR ไปใช้งาน การใช้งานดังกล่าวจะต้องทำให้การดำเนินการมีประสิทธิภาพมากขึ้น วิธีหลักที่ AMRs ทำเช่นนี้คือ การลดเวลาเดินทาง: ยิ่งพนักงานใช้เวลาเดินทางน้อยลงเท่าใด พวกเขาก็ยิ่งใช้เวลามากขึ้นในการเลือกโซนและดำเนินการตามคำสั่งซื้อ

หนึ่งในปัจจัยขับเคลื่อนหลักของเวลาเดินทางคือ จำนวน SKU ที่การดำเนินการมีอยู่ในมือ โดยทั่วไป ยิ่ง SKU อยู่ในสต็อกมากเท่าไร ก็ยิ่งต้องใช้เวลาเดินทางมากขึ้นในการกรอกคำสั่งซื้อ เพื่อให้หุ่นยนต์ AMR มีผลกระทบต่อเวลาเดินทางอย่างแท้จริง สิ่งอำนวยความสะดวกต้องมี SKU ขั้นต่ำที่แน่นอน มิฉะนั้น เวลาเดินทางไม่น่าจะลดลงเพียงพอที่จะปรับต้นทุนของระบบ

ซึ่งหมายความว่าหุ่นยนต์คลื่อนที่อัตโนมัติ(AMRs) อาจเหมาะสมกว่าสำหรับการดำเนินงานขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ที่มี SKU จำนวนมาก และมีเหตุผลน้อยกว่าสำหรับการดำเนินการที่มี SKU น้อยกว่า

2.ข้อจำกัดเกี่ยวกับขนาดโหลด
ระบบหุ่นยนต์ AMR อาจไม่เหมาะกับคุณ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของผลิตภัณฑ์ที่การดำเนินการของคุณจัดการ แม้ว่าความจุในการบรรทุกจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและผู้ให้บริการ แต่ AMRs นั้นไม่ได้ใช้งานหนักเหมือน AGV และรูปแบบการทำงานอัตโนมัติอื่นๆ ซึ่งอาจจำกัดการใช้งานของหุ่นยนต์ AMR ภายในโรงงานของคุณ สำหรับการใช้งานที่จัดการกับวัสดุหรือผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหนักมาก AGV หรือ AS/RS อาจเหมาะสมกว่า

ดังนั้น กำหนดเส้นทางไปข้างหน้าของหุ่นยนต์ AMR สามารถเป็นส่วนเสริมที่ทรงพลังอย่างเหลือเชื่อให้กับคลังสินค้าของคุณหรือการดำเนินการเติมเต็มคำสั่งซื้อ ช่วยให้คุณเพิ่มประสิทธิภาพ ผลผลิต และผลกำไรด้วยต้นทุนการลงทุนที่ค่อนข้างต่ำ อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าเทคโนโลยีนี้ไม่ใช่สำหรับทุกคน

นอกเหนือจากการชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสียของ AMR ด้วยตัวเองแล้ว ผู้รวมระบบที่เชื่อถือได้หรือผู้ที่ใช้งานสามารถช่วยคุณกำหนดได้ว่า AMR จะเสริมการทำงานของคุณหรือไม่ หรือคุณควรพิจารณาเทคโนโลยีทางเลือกอื่นหรือไม่